สารบัญ
ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรม การท่องเที่ยว หรือการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ในชีวิต โดยเฉพาะในด้านการทำงานที่มีปัญหาต่างๆ ตามมาจากรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป อย่างเช่น สถานที่ทำงานที่ไม่สามารถเอื้ออำนวยต่อการทำงาน หรือปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้นแต่มีเวลาจำกัด เป็นต้น จึงทำให้หลายๆ คนไม่สามารถรับมือ หรือปรับเปลี่ยนลักษณะการทำงานได้ทันที ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถส่งผลให้เกิดการทำงานล่วงเวลา หรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาของงานนั้นๆ ได้ตามเวลาที่กำหนด จนทำให้เกิดความไม่สมดุลของการใช้ชีวิต หรือ Work-Life Balance ได้ และถ้าหากปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นในระยะยาว อาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการเป็นภาวะ Burnout Syndrome หรืออาการหมดไฟในการทำงานได้ และสำหรับใครที่อยากรู้ว่า Burnout Syndrome คืออะไร มาทำความรู้จักกับภาวะดังกล่าวในบทความนี้กันเลย
ทำความรู้จักกับภาวะ Burnout Syndrome
Burnout Syndrome คือ อาการที่เกิดจากภาวะด้านอารมณ์ และจิตใจ ซึ่งเป็นผลของความเครียดที่เกิดจากการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่การทำงาน รูปแบบการทำงาน หรือปริมาณงานที่ได้รับ รวมถึงการจัดการกับปัญหาเรื่องงาน หรือไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้ เป็นต้น ด้วยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ จึงทำให้หลายๆ คนเป็นภาวะดังกล่าว ส่งผลให้เกิดความเครียด ร่างกาย และจิตใจเหนื่อยล้าได้ง่าย เกิดความเศร้า รู้สึกชีวิตไม่ค่อยมีความสุข และชอบคิดแง่ลบเป็นประจำ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงได้ โดยสามารถแบ่งระยะการเกิดภาวะ Burnout Syndrome ได้ดังนี้
- ระยะฮันนีมูน (The Honeymoon) เป็นช่วงเริ่มต้นของการทำงาน โดยในระยะนี้ผู้ทำงานยังคงมีความตั้งใจ และมุ่งมั่นในการทำงานอย่างเต็มที่
- ระยะรู้สึกตัว (The Awakening) หลังจากผู้ทำงานลองปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบงาน และองค์กรแล้ว อาจพบว่าไม่ตรงกับที่ตนเองคาดหวังไว้ หรือรู้สึกว่างานดังกล่าวไม่เหมาะสมกับตนเอง จึงอาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า หรือเกิดความคิด และอารมณ์ในแง่ลบได้
- ระยะไฟตก (Brownout) เป็นระยะที่ทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า และมีความรู้สึกในแง่ลบมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานลดลง และทำให้หมดความกระตือรือร้นในการทำงานได้อีกด้วย
- ระยะหมดไฟเต็มที่ (Full scale of Burnout) หลังจากผ่านระยะไฟตก จะทำให้ผู้ทำงานรู้สึกท้อแท้กับชีวิตมากขึ้น เครียดได้ง่ายขึ้น และส่งผลต่อพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจนอาจทำให้ตนเองรู้กลายเป็นคนที่รู้สึกล้มเหลว และสูญเสียความมั่นใจในการทำงานได้
- ระยะฟื้นตัว (The Phoenix Phenomenon) ภาวะ Burnout Syndrome คือ ภาวะที่ทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีแก้ภาวะ Burnout Syndrome ที่เป็นวิธีในการแก้ไขภาวะนี้ได้อย่างถูกวิธี และเหมาะสม ซึ่งจะทำให้ผู้ทำงานสามารปรับตัวให้เข้ากับการทำงานได้ดีขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพของงานได้มากขึ้น
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะ Burnout Syndrome
ด้วยภาวะ Burnout Syndrome คือ ภาวะที่มีสาเหตุจากความเครียดเรื่องงาน และส่งผลต่อร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ นอกจากนั้นยังสามารถส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต หรือการทำงานที่ไม่สมดุลได้อีกด้วย แถมยังทำให้เกิดผลเสียต่างๆ ตามมาอีกมากมาย ดังนี้
• ด้านร่างกาย
ร่างกายเป็นสิ่งที่ทุกคนควรดูแลเป็นอย่างดี เพราะว่าต้องใช้งานทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรม การทำงาน หรือการทำสิ่งต่างๆ ถ้าหากพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือใช้ร่างกายอย่างหักโหม อาจทำให้ร่างกายเกิดความเหนื่อยล้าสะสม ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะ Burnout Syndrome ขึ้นได้
• ด้านอารมณ์และจิตใจ
นอกจากร่างกายแล้ว อารมณ์ และจิตใจก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องหมั่นดูแล และให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะหลายๆ ครั้งที่เกิดความเครียด รู้สึกหดหู่ หรือรู้สึกหงุดหงิด ก็ยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะ Burnout Syndrome ได้ด้วยเช่นกัน
• ด้านการใช้ชีวิต
ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้หลายๆ คนใช้ชีวิตแบบเร่งรีบมากขึ้น หรือจัดการ Work-Life Balance ได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งอาจทำให้ผู้ทำงานกลายเป็นคนที่ไม่มีความสุขในการทำงาน แถมยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะ Burnout Syndrome ได้อีกด้วย
• ด้านการทำงาน
เมื่อขาดความสมดุลในการใช้ชีวิต ก็สามารถส่งผลให้ขาดความสมดุลในด้านการทำงานเช่นกัน เพราะถ้าหากไม่สามารถจัดการ Work-Life Balance ได้ ก็อาจทำให้ไม่สามารถรับมือกับปัญหาของงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงมีปริมาณงานที่มากเกินไปจนทำไม่ทันเวลา หรือไม่สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความกดดันจากการทำงาน หรือแม้กระทั่งการรับมือกับหัวหน้างานที่อาจจะรับมือยากกว่าเนื้อหางานที่เราต้องรับผิดชอบเสียอีก ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดความเครียด ที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะ Burnout Syndrome
เคล็ดลับการรับมือกับภาวะ Burnout Syndrome
เนื่องจากภาวะ Burnout Syndrome เป็นภาวะที่มีผลต่อสภาพร่างกาย และจิตใจ ส่งผลให้การใช้ชีวิต และการทำงานไม่เป็นระเบียบ และรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้ยากยิ่งขึ้น ดังนั้น ถ้าหากมีวิธีแก้ Burnout Syndrome หรือเคล็ดลับในการรับมือกับอาการหมดไฟในการทำงานได้ ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะดังกล่าวได้ แถมยังทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการ Work-Life Balance การออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ การทานอาหารครบ 5 หมู่ หรือการทำกิจกรรมนันทนาการต่างๆ ที่จะช่วยร่างกายแข็งแรง อารมณ์ดี และจิตใจแจ่มใสมากขึ้น แถมยังสามารถจัดระเบียบชีวิตให้ดีมากขึ้น และสนุกสนานไปกับการใช้ชีวิตได้มากกว่าที่เคย
• จัดการ Work-Life Balance เป็น
การรู้จักจัดการ Work-Life Balance ให้เป็น คือ การสร้างสมดุลระหว่างการทำงาน และการใช้ชีวิตให้มีความสุขมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพกาย และจิตใจให้แข็งแรงสมบูรณ์ ทำให้ทุกคนพร้อมใช้ชีวิต และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• รู้จักตนเอง
การรู้จักตนเองจะช่วยให้เข้าใจในสิ่งที่ตนเองต้องการมากยิ่งขึ้น และทำให้มีเป้าหมายในการทำสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจน ทำให้ทุกคนใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ประสบความสำเร็จ และเติมเต็มชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ
• เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ
นอกจากการรู้จักตนเองจะช่วยสร้างเป้าหมายในสิ่งที่ต้องการทำแล้ว การเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ยังสามารถช่วยเพิ่มความสำเร็จของเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อีกด้วย โดยการเรียนรู้นั้นยังสามารถช่วยให้เข้าใจถึงอาการหมดไฟทำงานมากขึ้น และช่วยหาวิธีแก้ไขภาวะ Burnout Syndrome ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม
• ปฏิเสธให้เป็น
หลายๆ คนอาจได้รับภาระจากปริมาณงานมากจนเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถรับมือ และแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านั้นได้ รวมถึงในบางครั้งนั้นอาจต้องทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ หรือภาระงานที่มีความยุ่งยากจนส่งผลให้เกิดความลำบากมากขึ้น ดังนั้น การปฏิเสธจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อความเครียดอันเป็นสาเหตุของการเกิด Burnout Syndrome
• ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นอีกวิธีแก้ Burnout Syndrome เพราะว่าการออกกำลังกายนั้นสามารถช่วยลดความเครียด และเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนได้ดีมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้สมาธิในการทำงานดียิ่งขึ้น แถมยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้อีกด้วย
• ปรึกษาคนใกล้ตัวหรือแพทย์
ชีวิตประจำวันของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน โดยในบางครั้งอาจมีความทุกข์ และต้องการปรึกษาผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ตัวอย่างครอบครัว หรือเพื่อนสนิท รวมถึงแพทย์ที่สามารถรับฟัง และแลกเปลี่ยนความเห็น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา หรือมองหาทางออกร่วมกัน
• พักผ่อนให้เพียงพอ
เพราะทุกคนต้องนอนพักผ่อน ดังนั้น การพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้สมองได้รับการผ่อนคลายและลดความเหนื่อยล้าลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น และยังทำให้รู้สึกปลอดโปร่งและเป็นการป้องกันความเครียดแบบหนึ่งของวิธีแก้ไข Burnout Syndrome อีกด้วย
• ทานอาหารครบ 5 หมู่
อาหาร คือ สิ่งที่สำคัญต่อสุขภาพ และร่างกาย ดังนั้น การทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และความแข็งแรงให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาหารที่มีประโยชน์นั้นแบ่งออกเป็น 5 หมู่ ดังนี้
- หมู่ 1 คือ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไข่ นม สาหร่าย และถั่ว ช่วยฟื้นฟู และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมถึงการเจริญเติบโตของร่างกาย และเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
- หมู่ 2 คือ คาร์โบไฮเดรตจากแป้ง และข้าว แหล่งพลังงานหลักของระบบประสาท และสมอง แถมยังช่วยให้พลังงานแก่ร่างกายอีกด้วย
- หมู่ 3 คือ เกลือแร่จากพืชผักใบเขียว ช่วยในการขับถ่าย และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- หมู่ 4 คือ วิตามินจากผลไม้ ช่วยในระบบย่อยอาหาร ป้องกันโรคต่างๆ และช่วยลดคอเรสเตอรอลได้เป็นอย่างดี
- หมู่ 5 คือ ไขมันจากพืช และสัตว์ เช่น น้ำมันพืช น้ำมันหมู เป็นแหล่งให้พลังงาน ช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ช่วยป้องกันการบาดเจ็บของอวัยวะภายในร่างกาย และช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่
• หากิจกรรมหรือทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ
นอกจากการทำงานแล้ว การหากิจกรรม หรือทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังฟังเพลง การออกกำลังกาย หรือกิจกรรมอื่นๆ ถือว่าเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง โดยเฉพาะในวัยเด็ก และช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายจากเวลางานได้เป็นยังดี แถมยังเป็นวิธีแก้ไข Burnout Syndrome อีกด้วย
ผลเสียของการปล่อยให้เกิดภาวะ Burnout Syndrome
ทุกคนทราบกันดีว่า ภาวะ Burnout Syndrome คือ ภาวะที่เกิดขึ้นกับร่างกาย และจิตใจ ซึ่งเกิดจากความเครียด และความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ส่งผลให้คนที่อยู่ในภาวะดังกล่าวเกิดความวิตกกังวล ความทุกข์ใจ และไม่มีความสุข และถ้าหากปล่อยอาการเหล่านี้ทิ้งไว้นานเกินไป อาจทำให้รู้สึกว่าชีวิตไม่มีคุณค่า และไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังทำให้รู้สึกว่าพักผ่อนไม่เพียงพอ กินอาหารได้น้อยลง และอาการอื่นๆ ที่เกิดจากภาวะดังกล่าว จนนำไปสู่การเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่อาจตามมาในอนาคตได้
กลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการเป็นภาวะ Burnout Syndrome
Burnout Syndrome คือ ภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับหลายๆ คน และถ้าหากไม่มีวิธีการรับมือ หรือแก้ไข อาจส่งผลเสียในระยะยาวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคน ดังนี้
- คนวัยทำงาน เป็นกลุ่มที่ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ซึ่งบางครั้งไม่สามารถรับมือกับปริมาณงาน และปัญหาที่เข้ามาได้ จนทำให้เกิดความรู้สึกกดดัน และความเครียดได้ง่าย
- นักเรียน หรือนักศึกษา เป็นวัยที่ต้องอ่านหนังสือ และทำกิจกรรมต่างๆ ค่อนข้างเยอะ ถ้าหากไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของการเรียน กิจกรรม และการใช้ชีวิตได้ อาจส่งผลให้เกิดความเครียดจนนำไปสู่ภาวะ Burnout Syndrome ได้
ภาวะหมดไฟในการทำงาน หรือภาวะ Burnout Syndrome คือ อาการที่เกิดจากความเครียด และอารมณ์ด้านลบ ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นมักมีเกิดจากรูปแบบการใช้ชีวิต หรือการทำงาน ที่อาจส่งผลให้มีความรู้สึกในแง่ลบ อย่างเช่น รู้สึกกังวลใจ ทุกข์ใจ หรือท้อแท้ใจ ดังนั้น วิธีแก้ Burnout Syndrome ที่สามารถแก้ไขภาวะดังกล่าวได้แบบง่ายๆ ด้วยการจัดการ Work-Life Balance ให้ดี รู้จักเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และหมั่นออกกำลังกาย พร้อมทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตลอดจนการปรึกษาครอบครัว เพื่อนสนิท คนใกล้ตัว หรือแพทย์ ก็จะช่วยให้ทุกคนสามารถรับมือกับภาวะดังกล่าวได้เป็นอย่างดี