เงินเฟ้อ คือ ภาวะที่สินค้าและบริการมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือพูดง่ายๆ ก็คือของมีราคาแพงขึ้นในขณะที่ได้ในปริมาณเท่าเดิม โดยปกติแล้วในระบบเศรษฐกิจมักจะมีภาวะเงินเฟ้อแบบอ่อนๆ เพื่อให้เศรฐกิจขับเคลื่อนและเติบโตขึ้น
แต่หากเงินเฟ้อมาก จนเกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรง (Hyperinflation) ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ ไปดูกันว่าสาเหตุเงินเฟ้อเกิดจากอะไร และผลกระทบเงินเฟ้อส่งผลอย่างไรต่อการใช้ชีวิตบ้าง
สาเหตุเงินเฟ้อ ที่สูงขึ้นมาจากอะไรบ้าง
สาเหตุของการเกิดเงินเฟ้อมาจาก 2 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้
1. ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น (Cost Push Inflation) ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนด้านราคาวัตถุดิบในการผลิต แรงงาน หรือค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายไหว จึงจำเป็นต้องปรับราคาสินค้าหรือบริการให้สูงขึ้นตามไปด้วย
2. ความต้องการสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น
สาเหตุเงินเฟ้อประการต่อมา คือ เกิดความต้องการของสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น (Demand Pull Inflation) แต่จำนวนสินค้าหรือบริการนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ผู้ประกอบการมองเห็นช่องทางในการทำกำไร จึงปรับราคาสินค้าหรือบริการให้สูงขึ้นตามไปด้วย
ผลกระทบเงินเฟ้อต่อภาคส่วนต่างๆ
เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้นภายในประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น สินค้าและบริการก็จะมีราคาสูงขึ้นแม้จะได้ของในปริมาณเท่าเดิม หรือเรียกได้ว่า เงินมีค่าน้อยลงนั่นเอง ซึ่งผลกระทบเงินเฟ้อนั้นสามารถเกิดได้กับทุกๆ ภาคส่วน ตั้งแต่ประชาชน ผู้ประกอบการ รวมไปถึงกระทบต่อระบบเศรษฐกิจภายในประเทศด้วย
ผลกระทบของเงินเฟ้อต่อภาคประชาชน
ไม่ว่าสาเหตุเงินเฟ้อจะเกิดจากอะไร ประชาชนถือเป็นกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อเสมอ เพราะต้องซื้อของในราคาที่แพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น มีอำนาจในการซื้อที่น้อยลง และที่สำคัญคือ เงินหรือรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต
เมื่อเงินเฟ้อสูงจนบริษัทต้องลดต้นทุนในการผลิตก็เสี่ยงที่จะถูกยกเลิกการจ้างงานด้วย นอกจากนี้เมื่ออัตราเงินเฟ้อยิ่งสูง ดอกเบี้ยที่ได้จากเงินฝากธนาคารก็จะยิ่งน้อยลงไปด้วย หรือเรียกว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่ได้จากการฝากเงินลดลง เมื่อเงินเฟ้อประชาชนจึงหันไปลงทุนในรูปแบบอื่นๆ แทน
ผลกระทบของเงินเฟ้อต่อผู้ประกอบการ
เมื่อสินค้าราคาแพงขึ้น จนประชาชนไม่สามารถซื้อไหว หรือซื้อเท่าที่จำเป็น และเลือกเก็บเงินไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ส่งผลให้ยอดขายลดลง ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบได้กำไรน้อยลงจนต้องชะลอการผลิต นอกจากนี้เงินเฟ้อยังส่งผลต่อการแข่งขันในภาคธุรกิจกับประเทศอื่นๆ เพราะไม่สามารถสู้ราคากับที่อื่นได้ จนอาจทำให้บางบริษัทต้องปิดตัวลง
ผลกระทบของเงินเฟ้อต่อประเทศ
ผลกระทบจากเงินเฟ้อจะถูกส่งต่อกันเป็นทอดๆ เมื่อประชาชนซื้อของน้อยลง ผู้ประกอบการขายของไม่ได้ จึงส่งผลต่อธุรกิจภายในประเทศ ทำให้การพัฒนาศักยภาพการผลิตในระยะยาวชะลอตัวลง นอกจากนี้เมื่อเงินเฟ้อสูง ประชาชนได้ดอกเบี้ยที่แท้จริงในการฝากเงินลดลง จึงมองหาการลงทุนรูปแบบอื่นๆ ทำให้ประเทศเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาฟองสบู่ในสินทรัพย์ต่างๆ เพราะประชาชนไม่ฝากเงิน ประเทศก็จะขาดความสมดุลในภาคการเงินตามไปด้วย
หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการดูแลและจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ
หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการเข้ามาจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ได้แก่
1. กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงที่มีหน้าที่ในการดูแลราคาสินค้าและรายได้ของเกษตรกร เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อจะต้องนั้จะต้องดูแลควบคุมราคาสินค้า เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้บริโภค รวมทั้งตรึงราคาสินค้าในช่วงที่เกิดการขาดแคลน นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ยังต้องคำนวณจัดทำดัชนีราคาผู้บริโภค เพื่อให้ประชาชนรับรู้ว่าถึงภาวะอัตราเงินเฟ้อ
2. ธนาคารแห่งประเทศไทย
โดยปกติแล้วธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและไม่ผันผวน หรืออยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 1-3% เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจและประชาชนสามารถวางแผนการลงทุนและค่าใช้จ่ายได้ในอนาคต
แต่เมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อไม่อยู่ในกรอบเป้าหมาย ธนาคารแห่งประเทศไทยจะดำเนินนโยบายทางการเงินที่เรียกว่า “อัตราดอกเบี้ยนโยบาย” เพื่อดูแลให้ภาวะเงินเฟ้อต่ำลง และไม่เกิดการผันผวน ดูแลให้ระบบเศรฐกิจมีเสถียรภาพด้านราคา และภาคธุรกิจมีการเจริญเติบโตมากขึ้น นอกจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะหาข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน เพื่อสนับสนุนให้เศรฐกิจเกิดการฟื้นตัว
ตัวเลือกการลงทุนในในยุคที่เงินเฟ้อสูง
เมื่อภาวะเงินเฟ้อส่งผลทำให้อัตราดอกเบี้ยในการฝากงานลดลง หรือบางครั้งอาจถึงขั้นติดลบ ภาคประชาชนหรือธุรกิจสามารถมองหาการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าอัตราเงินเฟ้อได้หลากหลายรูปแบบ ดังนี้
- หุ้น การลงทุนในตลาดหุ้นจะได้เงินปันผลและส่วนต่างของราคาหุ้นที่อาจมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อความมั่นคงด้านการเงินในอนาคต
- ทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่ถูกเรียกว่า เงินมั่นคง ที่มีราคาในระยะยาว ยิ่งเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาทองคำก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการลงทุนในยุคเงินเฟ้อ
- ฝากเงินดอกเบี้ยสูง การฝากดอกเบี้ยเงินสูงเป็นบัญชีเงินฝากแบบประจำ โดยจะต้องฝากเงินเข้าบัญชีทุกเดือนและต้องฝากให้ครบตามระยะเวลาที่ธนาคารกำหนดไม่ว่าจะเป็นแบบ 12 เดือน หรือ 36 เดือน ซึ่งจะได้ดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าเงินฝากทั่วไป
- ตราสารหนี้ การลงทุนในตราสารหนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในช่วงที้เกิดภาวะเงินเฟ้อ แต่จำเป็นต้องเลือกตราสารหนี้ประเภท Floating Rate Bond หรือ Inflation Linked Bond ที่จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายในแต่ละงวดตามอัตราดอกเบี้ย และอัตราเงินเฟ้อที่เปลี่ยนแปลงไป
- อสังหาริมทรัพย์ สำหรับใครที่มีเงินเย็น การซื้ออสังหาริมทรัพย์ถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะไม่ผันผวนตามภาคอุตสาหกรรมและตลาดหุ้น ที่สำคัญราคามีการปรับตัวขึ้นอยู่เสมอ
เงินเฟ้อเป็นภาวะที่สินค้าและบริการมีราคาที่สูงขึ้น ซึ่งสาเหตุเงินเฟ้อเกิดได้จากปัจจัยหลักๆ 2 ข้อคือ ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และประชาชนมีความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น หากเงินเฟ้อมีอัตราการเกิดที่สูงขึ้นมากๆ ก็จะกระทบกับทุกภาคส่วนตั้งแต่ประชาชน ผู้ประกอบการ และเศรฐกิจภายในประเทศที่อาจเกิดการชะลอตัว ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องเข้ามาจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ เพื่อไม่ให้ให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น และเกิดความผันผวนในระบบเศรฐกิจ