9 สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม หากเปลี่ยนงานใหม่ ฉบับคนอายุมากวัย 30+

9 สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือ หากเปลี่ยนงานใหม่ ฉบับคนอายุมากวัย 30+

เมื่ออายุมากขึ้น หลายคนเริ่มมองหาความมั่นคงทางหน้าที่การงาน เพื่อการเงินที่มีสภาพคล่อง ใช้จ่ายได้ไม่มีสะดุด แต่บางคนก็กำลังติดหล่มกับที่ทำงานเก่า ที่ให้เงินเดือนไม่พอใช้ อยากจะเปลี่ยนงาน ออกจากเซฟโซนการทำงานเดิมๆ แต่ก็กลัวการเริ่มต้นใหม่ ไม่รู้ว่าอายุมากจะเปลี่ยนงานได้ไหม

บทความนี้จะพาไปดู 9 สิ่งที่ต้องเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนงานตอนอายุมาก เพื่อให้รู้ว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคที่จะเริ่มต้นชีวิตการทำงานใหม่ เพียงแค่มีความตั้งใจ เชื่อมั่น และมีการเตรียมพร้อมมาอย่างดี ทำได้อย่างไรบ้าง? ไปดูกัน!

Table of Contents

1. วางแผนสภาพการเงิน

1. วางแผนสภาพการเงิน

การเตรียมความพร้อมอย่างแรกในการเปลี่ยนงานก็คือ การวางแผนสภาพการเงิน เพราะเชื่อว่าเมื่ออายุมากขึ้น ค่าใช้จ่าย และความรับผิดชอบก็จะเพิ่มขึ้นตาม ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าเลี้ยงดูบุพการี หรือค่าเลี้ยงดูบุตร

ดังนั้น หากต้องการเปลี่ยนงานเมื่ออายุมาก ต้องวางแผนการเงินให้รอบคอบ รัดกุม เพื่อไม่ให้กระทบต่อรายได้ และรายจ่าย มิเช่นนั้น การหมุนเวียนเงินก็อาจจะติดขัด จนทำให้ส่งผลเสียต่อครอบครัว และตนเองได้ นอกจากนี้ ควรมีเงินเก็บเท่ารายจ่าย 3 เดือนขั้นต่ำ 

ยกตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 30,000 บาท ต้องมีเงินเก็บอย่างต่ำ 90,000 บาท ก่อนที่จะย้ายงานนั่นเอง

2. หางานใหม่รองรับก่อนลาออก

การหางานใหม่รองรับให้ได้ ก่อนยื่นใบลาออกนั้น จะทำให้ไม่ต้องขาดรายได้ในช่วงการเปลี่ยนงานใหม่ ถึงแม้จะมีเงินเก็บเท่ากับรายจ่าย 3 เดือน ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ก็ไม่ควรลาออกก่อน เนื่องจากอายุที่มาก อัตราการแข่งขันและข้อต่อรองจากบริษัทใหม่ก็มากตามเช่นกัน

หากหางานใหม่ด้วยความรีบร้อน เพราะเหตุผลว่างงาน จะทำให้เสียเปรียบ หรือมีโอกาสได้งานที่แย่กว่าเดิม เช่น ที่ทำงานใหม่ยื่นข้อเสนอให้ทำงานมากขึ้น แต่ได้เงินเดือนที่น้อยลง คุณก็อาจจะต้องจำใจยอมรับงานนี้ เพราะกลัวขาดรายได้นาน เป็นต้น

3. เลือกงานที่เหมาะกับความสามารถ

3. เลือกงานที่เหมาะกับความสามารถ

องค์ประกอบของ Ergonomic ประกอบไปด้วยการศึกษา ตั้งแต่เรื่องกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา และจิตวิทยา เพื่อให้การทำงานราบรื่นที่สุด และช่วยให้ตัวพนักงานเองได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ดีน้อยที่สุด ซึ่งส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพตามมาด้วยนั่นเอง

3. เลือกงานที่เหมาะกับความสามารถ

4. เตรียมตอบคำถามจาก HR

ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เมื่อเปลี่ยนงานก็ต้องเตรียมตัวตอบคำถามจาก HR ทั้งที่เก่าและที่ใหม่ แต่หากคนที่มีอายุ 30 ปีปลายๆ อาจจะมีโอกาสโดนถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่ลึกมากกว่าคนอื่นๆ เพราะในบางสายงาน เรื่องอายุยังคงเป็นปัญหาในการทำงาน HR จึงอาจจะมีคำถามเพื่อประเมินความสามารถ และความกระตือรือร้นในการทำงาน ซึ่งตัวอย่างคำถามและการตอบคำถามที่ดี มีดังนี้

  • ถาม: คุณคิดว่าจะปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ของเราได้อย่างไร?
  • ตอบ: ตลอดอาชีพการงานผม/ดิฉัน ได้เรียนรู้และปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ ผม/ดิฉันตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และนำประสบการณ์ที่มีมาประยุกต์ใช้
  • ถาม: คุณวางแผนจะทำงานกับเราไปอีกนานแค่ไหน?
  • ตอบ: ผม/ดิฉันกำลังมองหาโอกาสระยะยาวที่จะได้เติบโต และสร้างคุณค่าให้กับองค์กร ผม/ดิฉันหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่จนกว่าจะเกษียณ หากทั้งสองฝ่ายพึงพอใจซึ่งกันและกัน

การเตรียมพร้อมในการสัมภาษณ์ และตอบคำถามด้วยความจริงใจ จะทำให้ HR มองเห็นศักยภาพ ถึงแม้อายุจะมาก ก็สามารถเข้ากับองค์กร และนำประสบการณ์ที่มีอันยาวนาน มาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถึงแม้จะเปลี่ยนงานเมื่ออายุมาก ก็ไม่เป็นอุปสรรคแน่นอน

5. ปรับ Mindset เมื่อทำงานกับคนต่างวัย

เมื่ออายุมากขึ้น มักจะมีประสบการณ์ และความรู้ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ซึ่งอาจทำให้เกิดความแตกต่างในด้านมุมมอง และวิธีการทำงานกับคนต่างวัย ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คนอายุมากต้องปรับ Mindset เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับคนต่างวัย ในที่ทำงานใหม่ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ 

ควรเปิดใจและยอมรับความแตกต่าง แบ่งปันประสบการณ์และความรู้ ปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี เพราะหากไม่ยอมปรับ Mindset ก็อาจจะเกิดความขัดแย้ง และความเข้าใจผิด ส่งผลทำให้การทำงานร่วมกันไม่ราบรื่น และมีประสิทธิภาพน้อยลง

สร้างความน่าเชื่อถือให้ที่ทำงาน

6. สร้างความน่าเชื่อถือให้ที่ทำงาน

คนอายุมากอาจจะต้องเผชิญกับแรงกดดันที่ว่าตนเองนั้นล้าสมัย หรือไม่มีความสามารถเท่ากับคนอายุน้อยกว่า ดังนั้น คนอายุมากต้องแสดงให้เห็นว่าตนมีศักยภาพ สามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี และเทรนด์ใหม่ๆ ได้

ยกตัวอย่างเช่น การเตรียมตัวพรีเซนต์งาน ด้วยการท่องสคริปต์ หรือทำความเข้าใจมาก่อน จนทำให้สามารถตอบคำถามจากหัวหน้า หรือลูกค้าได้ เป็นต้น ซึ่งการสร้างความน่าเชื่อถือจึงมีความสำคัญในการเอาชนะอคตินี้ได้นั่นเอง

7. เพิ่มทักษะ อัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในสายงานตัวเอง

จำเป็นต้องเพิ่มทักษะ และอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในสายงานของตนเองเมื่อเปลี่ยนงาน เนื่องจากตลาดแรงงานและเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากนิ่งเฉย และไม่เพิ่มทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน อาจถูกมองว่าล้าสมัย โอกาสในการได้งานใหม่ลดลง

ดังนั้น ควรเพิ่มความสามารถของตนเอง เพราะจะเป็นผลดีต่อการแข่งขัน การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานใหม่ได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสในการเติบโตในอาชีพได้อีกด้วย 

ยกตัวอย่างเช่น ผู้จัดการฝ่ายบัญชี เรียนรู้ซอฟต์แวร์บัญชีใหม่ๆ และระบบ ERP อย่างสม่ำเสมอ เมื่อเปลี่ยนงาน สามารถหางานใหม่ได้ง่ายและได้เงินเดือนสูงขึ้น เป็นต้น

8. เรียนรู้ผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรใหม่ แบบเร่งด่วน

เมื่อเปลี่ยนงาน ควรเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ หรือบริการขององค์กรใหม่แบบเร่งด่วน เพื่อการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาอันสั้น แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่น

อีกทั้งยังเป็นการลดช่องว่างระหว่างตนเองกับพนักงานที่อายุน้อยกว่า เพราะหากเรียนรู้ช้า หรือไม่ศึกษาผลิตภัณฑ์ และบริการขององค์กรใหม่เลย อาจถูกมองว่าไม่มีความพยายาม ไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ทำให้สูญเสียโอกาสในการเติบโต หรือไม่ได้รับมอบหมายงานสำคัญ และเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้างในช่วงทดลองงานได้

9. เตรียมรับความคาดหวังจากทีม

คนอายุมาก ที่อยากเปลี่ยนงานใหม่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับทั้งความคาดหวังจากองค์กร เพื่อนร่วมงาน และคาดหวังอนาคตทางการเงินจากตนเองด้วย ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงอาจสร้างความเครียด และความกังวล อีกทั้งยังต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีและวิธีการทำงานใหม่ พร้อมกับสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานที่อาจมีอายุน้อยกว่าอีกด้วย นอกจากนี้ อาจต้องพิสูจน์ตัวเองใหม่ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่คุ้นเคย ต้องรักษาสมดุลระหว่างการนำประสบการณ์เดิมมาใช้ และการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน

มองหางานใหม่ ลองเลือกโลเคชันออฟฟิศให้เช่า CW Tower มั่นใจเรื่องสภาพแวดล้อมได้เลย ที่นี่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ใจกลางรัชดาฯ การเดินทางสะดวก และเป็นอาคารสำนักงานที่ทันสมัย มีการออกแบบที่เอื้อต่อการทำงาน เป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่กำลังเปลี่ยนงาน เพราะนอกจากจะได้งานใหม่แล้ว ยังได้สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีด้วย

สรุป

ภาวะออฟฟิศซินโดรมนั้นสร้างผลกระทบต่อร่างกาย และจิตใจมากกว่าที่คิด แต่ปัญหานี้จะหมดไปหากองค์กรนำหลัก Ergonomic มาปรับใช้กับพนักงานของตัวเอง เพราะเป็นหลักที่แสดงให้เห็นว่า ความสำคัญของสภาพแวดล้อมในการทำงานนั้นสำคัญมากแค่ไหน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากเท่าไร 

มาสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีกับ CW Tower ที่มีบริการเช่าออฟฟิศ เช่าห้องประชุม สถานที่จัดสัมมนามาตรฐานสูง ทำเลดี ใจกลางรัชดาฯ มีโครงสร้างของตึกที่ทันสมัย การตกแต่งที่ดูหรูหรา เดินทางสะดวก ติดรถไฟฟ้า MRT พร้อมอุปกรณ์ และบริการครบครัน สามารถเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องตกแต่งให้เสียเวลา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

16 กันยายน 2024
16 กันยายน 2024
16 กันยายน 2024
23 สิงหาคม 2024
23 สิงหาคม 2024
22 สิงหาคม 2024

เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้แบ่งปันข้อมูลดี ๆ ให้กับคุณ

หากคุณต้องการ เช่าออฟฟิศ สามารถติดต่อเราได้เลย