Muketing การตลาดสายมู ดึงดูดลูกค้าด้วยความเชื่ออย่างสร้างสรรค์

Muketing การตลาดสายมู ดึงดูดลูกค้าด้วยความเชื่ออย่างสร้างสรรค์
Key Takeaway
  • Muketing คือ การทำการตลาดที่ผสมผสานความเชื่อ โชคลาง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ากับกลยุทธ์ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่เชื่อในเรื่องเหล่านี้
  • การตลาดสายมูได้รับความนิยมเพราะคนจำนวนมากเชื่อในโชคลางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แบรนด์จึงใช้ความเชื่อนี้สร้างจุดเด่น ดึงดูดลูกค้า และเพิ่มยอดขาย
  • การทำการตลาดสายมูทำได้โดยออกสินค้าเกี่ยวกับความเชื่อ จัดกิจกรรมเสริมดวง สร้างคอนเทนต์สายมู ใช้ Influencer และสนับสนุนกิจกรรมความเชื่อ
  • CW Tower มีออฟฟิศให้เช่า ทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบตกแต่งเอง ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ
การตลาดเป็นเครื่องมือที่สามารถปรับใช้กับหลายแนวทางเพื่อดึงดูดผู้บริโภค ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่กำลังมาแรงในปัจจุบันคือการนำ “ความเชื่อสายมู” หรือความเชื่อในเรื่องโชคลาง ดวง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาใช้ในการทำการตลาด มาดูกันว่าการตลาดสายมูมีจุดเริ่มต้นจากอะไร หากอยากทำการตลาดแบบนี้ต้องวิเคราะห์หรือเข้าใจอะไรบ้าง

Table of Contents

Muketing หรือการตลาดสายมู เป็นอย่างไ

Muketing หรือการตลาดสายมู เป็นอย่างไ

คำว่า “Muketing” มาจากการผสมกันระหว่างคำว่า Mutelu+Marketing ซึ่งหมายถึงความเชื่อในเรื่องโชคลาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และดวงชะตา กับการตลาด 

การตลาดสายมูนี้เกิดจากการที่ธุรกิจนำความเชื่อเรื่องมูมาใช้ในการส่งเสริมการขาย เช่น การใช้สัญลักษณ์ เครื่องราง ของมงคล หรือการจัดกิจกรรมเสริมดวงเพื่อความโชคดี เป็นต้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีความเชื่อในด้านนี้ เป็นการเน้นสร้างความเชื่อมั่นและการมีส่วนร่วมจากลูกค้า ทำให้เกิดการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม

ทำไม Muketing ถึงกลายมาเป็นการตลาดมาแรง

ทำไม Muketing ถึงกลายมาเป็นการตลาดมาแรง

จากการตลาดหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในเหตุผลที่ “มูเก็ตติ้ง” (Muketing) กำลังบูมอย่างรวดเร็ว สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย คือ

สายมูเป็นจุดเด่นให้กับแบรนด์ได้

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูง การตลาดสายมูจึงสามารถสร้างจุดเด่นให้กับแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายผ่านการนำเสนอความเชื่อและโชคลาง ซึ่งกลยุทธ์นี้ช่วยสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนจากคู่แข่ง ด้วยการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและน่าจดจำ ส่งผลให้แบรนด์มีเอกลักษณ์ที่เป็นที่ยอมรับและดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ

เพิ่มการขยายฐานลูกค้า

กลุ่มคนสายมูมีขนาดใหญ่และมีความเชื่อมั่นสูง ซึ่งสะท้อนจากรายงาน “The Rise of M-Commerce in Southeast Asia” โดย iPrice Group ที่แสดงให้เห็นว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าสายมูเป็นหนึ่งในหมวดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ดังนั้น กลยุทธ์การตลาดมูเตลูจึงเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ที่แบรนด์อาจยังไม่เคยเข้าถึงมาก่อน

ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

ผลสำรวจจากสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่าคนไทยกว่า 70% เชื่อในเรื่องโชคลาง และมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้สินค้า และบริการที่ช่วยเสริมดวงชะตา 

อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยุคใหม่ก็มีทั้งที่เชื่อและไม่เชื่อเรื่องโชคลาภ แต่ทุกคนต้องการความมั่นใจในการใช้ชีวิต การตลาดสายมูจึงตอบสนองความต้องการนี้ได้ดี โดยการเสนอสินค้าและบริการที่เสริมดวงจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกสบายใจและพร้อมเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต

สร้างรายได้และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ

แบรนด์สามารถใช้แนวทางการมูเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เช่น การจัดแคมเปญที่ผสมผสานความเชื่อ หรือทำคอนเทนต์สายมู 

นอกจากนี้ การร่วมมือกับ Influencer สายมู เช่น หมอดูชื่อดัง ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยโปรโมตสินค้าและบริการให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างรายได้ให้กับแบรนด์ได้

เริ่มต้นทำการตลาดสายมู ต้องทำอย่างไรบ้าง

เริ่มต้นทำการตลาดสายมู ต้องทำอย่างไรบ้าง

หากต้องการเริ่มทำการตลาดสายมู มีขั้นตอนที่สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้ ดังนี้

1. ทำความรู้จักกับเป้าหมายก่อน

ขั้นตอนแรกสำหรับกลยุทธ์ Muketing ที่แบรนด์ควรให้ความสำคัญคือการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน แบรนด์ควรวิเคราะห์ความเชื่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลูกค้านิยมบูชา เพื่อช่วยในการเลือกใช้กลยุทธ์ที่ตรงใจลูกค้า ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการดึงดูดและกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. นำกลยุทธ์ Muketing มาใช้ให้เหมาะสม

กลยุทธ์ Muketing มีหลากหลายรูปแบบ แบรนด์ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสินค้าและบริการ รวมถึงกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณทางการตลาดที่มี ซึ่งการพิจารณาความเชื่อและความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้การตลาดมีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด

ตัวอย่างกลยุทธ์ Muketing เช่น เครื่องรางหรือเสื้อยืดลายเทพเจ้า Limited Edition การแจกวัตถุมงคล การสร้างคอนเทนต์สายมูหรือวิดีโอเกี่ยวกับความเชื่อ สนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อ เป็นต้น

3. สร้างคอนเทนต์สายมูให้โดดเด่นที่สุด

คอนเทนต์ที่ดีจะสามารถดึงดูดความสนใจ และสร้างการจดจำแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบรนด์สามารถสร้างคอนเทนต์ในเว็บไซต์ส่วนตัวหรือหน้าโซเชียลมีเดีย หากคอนเทนต์นั้นน่าสนใจจะส่งผลให้มีโอกาสกลายเป็นไวรัล ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าสายมูได้มากขึ้น

ตัวอย่างคอนเทนต์สายมู เช่น บทความให้ความรู้เกี่ยวกับเคล็ดลับเสริมดวง วิดีโอรีวิวสถานที่มูเตลู อินโฟกราฟิกสรุปข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อ ไลฟ์สดพูดคุยกับอาจารย์สายมูเกี่ยวกับความเชื่อ เป็นต้น

4. เลือก Influencer มาทำมูเก็ตติ้งให้เข้ากับแบรนด์

Influencer สายมูที่มีชื่อเสียงและฐานแฟนคลับที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายสามารถช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้อย่างดี โดยแนะนำให้เลือกจากจำนวนผู้ติดตาม กลุ่มเป้าหมายที่อินฟลูเอนเซอร์นั้นๆ สื่อสาร คอนเทนต์ที่ผลิต และภาพลักษณ์ของอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้การทำการตลาดสายมูมีประสิทธิภาพมากที่สุด

5. สรุปผลลัพธ์และนำไปปรับปรุง

หลังจากทำแคมเปญมูเก็ตติ้งสำเร็จ แบรนด์ควรใช้เครื่องมือ Analytics เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ เช่น ยอดขาย ยอด Engagement และ Reach รวมถึงการติดตามฟีดแบ็ก เพื่อให้ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาปรับปรุงคอนเทนต์ให้ตรงใจลูกค้าและปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ในอนาคต

ตัวอย่างเด็ดจากแบรนด์ดัง ที่ทำ Muketing

หลายธุรกิจได้นำการตลาดสายมูมาใช้เพื่อดึงดูดลูกค้า โดยเฉพาะแบรนด์ดังๆ ที่ตระหนักถึงความสำคัญของความเชื่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในตลาดปัจจุบัน ตัวอย่างการนำกลยุทธ์ Muketing ไปใช้ มีดังนี้

LINE กับดูดวง

LINE ได้สร้างคอนเทนต์สายมูเกี่ยวกับการดูดวงเพื่อเอาใจกลุ่มคนสายมูผ่านไพ่ยิปซีและเซียมซี รวมถึงการดูดวงประจำวัน เพื่อดึงดูดผู้ใช้และเพิ่มการมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์ม ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงจนทำให้ขึ้นแท่นเป็น Horo Hub สำหรับผู้ที่สนใจในศาสตร์ดูดวงและเสริมดวง

แคมเปญจาก Tinder และพระตรีมูรติ

แคมเปญ Tinder x พระตรีมูรติ เป็นแคมเปญที่จัดขึ้นเพื่อเอาใจคนโสดสายมูในวันวาเลนไทน์ โดยปกติที่ผู้คนมักไปขอพรที่พระตรีมูรติในด้านความรัก แต่แคมเปญนี้ได้ทำ Muketing เป็นการนำเสนอวิธีใหม่ให้คนโสดสามารถปัดหาคู่ได้ที่นั่น ช่วยให้ผู้ใช้ได้เชื่อมต่อกันในบรรยากาศที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ

Satin มาพร้อมกับชุดเครื่องนอนสีมงคล

Satin ทำการตลาดสายมูสำหรับคนที่ชื่นชอบความมูเตลู ด้วยชุดผ้าปูและผ้านวม Satin Plus Lucky Me 2024 ที่ถูกออกแบบเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับทั้ง 12 ราศี การเลือกผ้าปูที่นอนมีอิทธิพลต่อชีวิต เนื่องจากเรามักใช้ห้องนอนเป็นส่วนใหญ่ โดยผ้าปูที่นอนที่ถูกโฉลกจะช่วยส่งเสริมพลังงานดีๆ ทำให้ชีวิตประจำวันดีขึ้น ตั้งแต่ยามหลับไปจนถึงตอนตื่นนอน

Pentel เขียนโชคดีด้วยปากกาสายมู

Pentel ได้นำปากการุ่น Energel มาต่อยอดด้วยคอนเซปต์ “ปากกาแห่งความโชคดี Energel Kawaii+ Write Your Own Luck” ซึ่งเน้นการขายความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้ โดยมองว่าการใช้ปากกาเป็นการลงมือทำด้วยตัวเอง ซึ่งส่งเสริมให้ผู้ใช้รู้สึกว่าพวกเขาคือผู้ควบคุมชะตาชีวิตตนเอง ประกอบไปด้วยลวดลายสัญลักษณ์นำโชค 6 อย่าง คือ 

  • UME ความรักผลิบาน (ลายดอกบ๊วย) 
  • KUMO ป้องกันอุปสรรค (ลายเมฆของเทพเจ้าสายฟ้าไรจิน)  
  • URUSHI เก็บกักความร่ำรวย (ลายหัตถกรรมเครื่องเคลือบญี่ปุ่น) 
  • KASA ช่วยเรื่องความสุข (ลายร่ม) 
  • ORIGAMI สุขภาพแข็งแรง (ลายนกกระเรียนกระดาษ)
  • KOI วิ่งแซงสู่ความสำเร็จ ลายปลาคาร์ป
ข้อควรระวังและเคล็ดลับการทำ Muketing ให้ได้ผล

ข้อควรระวังและเคล็ดลับการทำ Muketing ให้ได้ผล

การทำมูเก็ตติ้งคือการใช้ความเชื่อเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดี แต่เพื่อให้ได้ผลจริง ควรทำตามข้อควรระวังและเคล็ดลับที่เหมาะสม ดังนี้

สื่อสารข้อมูลให้เป็นกลางที่สุด

การทำ Muketing ควรสร้างกลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงกลุ่มคนที่มีความเชื่อ และกลุ่มที่ยังไม่เปิดใจ โดยใช้การประชาสัมพันธ์ที่มุ่งเน้นการให้ข้อมูลร่วมกับการเสนอขาย 

นอกจากนี้ การทำโปรโมชันจะช่วยกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเดิมเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและลดความจำเป็นในการสื่อสารซ้ำหลายครั้ง

เคารพในทุกความเชื่อ

มูเก็ตติ้งให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต้องเคารพความเชื่อที่หลากหลาย โดยแบรนด์ควรหลีกเลี่ยงการดูถูกหรือล่วงละเมิดความเชื่อของผู้อื่น และไม่ควรเหมารวมว่าคนสายมูจะต้องงมงาย การนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าที่มีความเชื่อแตกต่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่าลืมเน้นคุณภาพของสินค้าและบริการ

สิ่งที่จะทำให้การตลาดสายมูประสบความสำเร็จไม่ควรใช้ความเชื่อเป็นจุดขายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเน้นคุณค่าของสินค้าและบริการควบคู่ไปด้วย หากสินค้ามีคุณภาพและตอบโจทย์การใช้งานจริง จะช่วยสร้างความพึงพอใจและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้

ไม่โฆษณาจนเกินจริง

การใช้กลยุทธ์ Muketing ที่เล่นกับความเชื่อของลูกค้า ควรระมัดระวังในการโฆษณาไม่ให้มีการหลอกลวง หรือสร้างความงมงาย ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม อาจทำให้แบรนด์สูญเสียความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี นอกจากนี้ยังอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายตามกฎเกณฑ์การโฆษณาที่คุ้มครองผู้บริโภคอีกด้วย

สรุป

Muketing คือกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ความเชื่อและศรัทธาของผู้บริโภคเป็นจุดดึงดูด เหตุผลที่เป็นที่นิยมเพราะผู้คนหันมาสนใจเรื่องโชคลางและความมงคลมากขึ้น ตัวอย่างเช่น LINE ทำคอนเทนต์ดูดวง หรือ Tinder ออกแคมเปญร่วมกับพระตรีมูรติ การทำ Muketing ควรใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม เช่น การออกสินค้าพิเศษหรือจัดกิจกรรม แต่ควรทำด้วยความระมัดระวัง ไม่หลอกลวงหรือสร้างความงมงายเกินจริง

สำหรับใครที่กำลังทำธุรกิจ การเลือกออฟฟิศมีความสำคัญมาก ซึ่งที่ CW Tower มีออฟฟิศให้เช่าที่ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ ทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบตกแต่งเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

06 มกราคม 2025
06 มกราคม 2025
03 ธันวาคม 2024
03 ธันวาคม 2024
15 ตุลาคม 2024
09 ตุลาคม 2024

เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้แบ่งปันข้อมูลดี ๆ ให้กับคุณ

หากคุณต้องการ เช่าออฟฟิศ สามารถติดต่อเราได้เลย