หลายๆ คนที่อาจพบเจอกับปัญหาการจดโน๊ตไม่สวย เช่น จดไม่เป็นระเบียบ เนื้อหาที่จดมานั้นอ่านยาก หรือดูไม่สะอาดตา เป็นต้น ส่งผลให้หลายคนจดจำสิ่งที่เขียนลงไปในโน๊ตได้ยาก หรือไม่สามารถจดจำได้ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยเทคนิคการจดโน๊ตที่เราได้รวบรวมมาในบทความนี้ โดย 7 เทคนิคการจดโน๊ตนั้นจะมีอะไรบ้าง และสามารถนำไปประยุกต์เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากแค่ไหน ไปดูกันเลย
1. เลือกใช้อุปกรณ์เพื่อการจดโน๊ตที่ง่ายขึ้น
การใช้อุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการจดโน๊ต เช่น เครื่องเขียน สมุดจด กระดาษโพสต์อิท หรือโพสต์อิทโน๊ต และสติกเกอร์ ถือว่าเป็นเทคนิคการจดโน๊ตที่หลายๆ คนอาจจะมองข้าม เพราะคิดว่าการจดโน๊ตนั้นสามารถจดอย่างไรก็ได้ แต่ว่าการเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อจดโน๊ตนั้นจะทำให้สมุดจดโน๊ตคุณมีสีสันสวยงาม ดูน่าอ่านมากขึ้น และสามารถจดจำเนื้อหาต่างๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
• เครื่องเขียน
เครื่องเขียน เป็นอุปกรณ์สำคัญในการจดโน๊ตที่ทุกคนจะต้องมีติดตัวไว้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นปากกา ดินสอ หรือปากกาไฮไลต์หลากสีสัน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเทคนิคการจดโน๊ตได้มากยิ่งขึ้น อย่างเช่น ถ้าหากมีหัวข้อของเนื้อหาในโน๊ตที่ควรจำ อาจใช้ปากกาไฮไลต์ในการเน้นข้อความให้โดดเด่น เพื่อให้รู้ว่าหัวข้อนี้สำคัญ แถมยังช่วยให้คุณสามารถจดจำได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
• สมุดจดโน๊ต
อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในการจดโน๊ต คือ สมุดจดโน๊ต โดยสมุดจดโน๊ตที่ดีนั้นจะต้องมีขนาดพอดี หรือไม่เล็ก และไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะสำหรับการเขียนจดบันทึก ซึ่งตัวปกสมุดจะต้องแข็งแรง และสามารถกันน้ำได้ นอกจากนั้นยังควรมีเส้นบรรทัด หรือเส้นแบ่งสัดส่วนๆ ต่างภายในหน้าสมุด เพื่อช่วยให้การจดโน๊ตนั้นมีระเบียบ แถมยังน่าอ่านมากขึ้นอีกด้วย
• โพสต์อิทโน๊ต
กระดาษโพสต์อิท หรือโพสต์อิทโน๊ต เป็นกระดาษแผ่นเล็กที่มีหลากหลายรูปทรง และสีสัน มาพร้อมกับแถบกาวสำหรับแปะบนหน้าสมุด และด้วยการใช้งานแบบอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกเนื้อหาต่างๆ ลงบนกระดาษโพสต์อิท เพื่อแปะบนสมุดจดโน๊ต หรือใช้แปะเพื่อเป็นที่คั่นหน้าสมุด ซึ่งเป็นตัวช่วยที่เสริมให้เทคนิคการจดโน๊ตของคุณมีความสวยงาม น่าอ่าน ดูเป็นระเบียบ และอ่านเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น
• สติกเกอร์
สติกเกอร์ ถือว่าเป็นอีกตัวช่วยเสริมที่จะทำให้สมุดโน๊ตของคุณดูน่ารักมากขึ้น เพราะสามารถเลือกรูปร่าง ลวดลาย หรือสีสันได้ตามใจชอบ จึงเหมาะสำหรับการตกแต่งสมุดโน๊ตของคุณให้มีความสวยงาม น่าอ่าน และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
2. ตั้งใจฟังเนื้อหาก่อนสรุปประเด็นต่างๆ ลงในโน๊ต
นอกจากอุปกรณ์เครื่องเขียน และอุปกรณ์เสริมต่างๆ จะช่วยเรียงลำดับเนื้อหาให้ง่ายต่อการจดจำแล้ว การตั้งใจฟังเนื้อหาก่อนนำมาสรุปเป็นประเด็นต่างๆ ลงในโน๊ตก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยเทคนิคการจดโน๊ตด้วยการฟังนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่รับฟังข้อมูลต่างๆ จากผู้สอน หรือผู้ที่ให้ข้อมูลว่ากำลังพูดถึงประเด็นอะไร หลังจากนั้นใช้วิธีการจับใจความสำคัญ และสรุปออกมาทีละประเด็น เพื่อจะได้จดลงไปในสมุดโน๊ตอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งเทคนิคการจดโน๊ตด้วยการฟังนั้นจะช่วยให้คุณทำการจดเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ถ้าหากว่าคุณตั้งใจฟัง และจดเนื้อหาทุกอย่างลงไปทั้งหมด อาจทำให้คุณจับใจความสำคัญได้ยากขึ้น และเมื่อกลับมาอ่านในภายหลังอาจจะไม่เข้าใจเนื้อหาในส่วนนั้นด้วย
3. วางเนื้อหาให้เป็นระเบียบ
สำหรับเทคนิคการจดโน๊ตอย่างการวางเนื้อหาให้เป็นระเบียบ เป็นเทคนิคที่สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เรียงลำดับหัวข้อ และวางโครงสร้างของเนื้อหาให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนหัวข้อ เนื้อหา หรือสรุป ซึ่งจะทำให้สมุดโน๊ตของคุณนั้นดูน่าอ่าน และสามารถอ่านได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังมีเนื้อหาครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะว่าแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน แถมยังช่วยให้เข้าใจสาระสำคัญในประเด็นที่บันทึกลงไปได้ แถมยังสามารถจดจำได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
• หัวข้อ
หัวข้อ เป็นส่วนต้นเรื่องที่สำคัญ โดยในส่วนนี้จะช่วยให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงใจความสำคัญของเรื่องนั้นๆ โดยการเขียนหัวข้อนั้นจะต้องเขียนให้กระชับ และชัดเจน เพื่อให้จดจำได้ง่าย แถมยังช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับหัวข้อนั้นๆ ได้อีกด้วย
• เนื้อหา
เนื้อหา เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากหัวข้อ โดยในส่วนนี้จะเป็นการอธิบายข้อมูล หรือเนื้อหาต่างๆ ลงไปในโน๊ต เพื่อให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจในแต่ละหัวข้อมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจดเนื้อหานั้นสามารถใช้คู่กับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้เพื่อเสริมเทคนิคการจดโน๊ตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ส่วนสรุป
ส่วนสรุป เป็นส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะในส่วนนี้จะเป็นการสรุปประเด็นจากเนื้อหาทั้งหมดที่ได้เขียนไปในตอนต้นให้มีความกระชับมากขึ้น โดยการเขียนส่วนสรุปนั้นจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจในเนื้อหาทั้งหมดภายในระยะเวลาสั้นๆ ได้
4. เลือกรูปแบบการจดโน๊ตที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์
ถึงแม้ว่าจะจดเนื้อหาอย่างเป็นระเบียบ หรือวางโครงสร้างอย่างชัดเจน แต่ถ้าหากในหน้าสมุดโน๊ตของคุณมีแต่ตัวอักษรเพียงอย่างเดียว อาจทำให้โน๊ตของคุณดูน่าเบื่อจนรู้สึกไม่น่าอ่านได้ ดังนั้น การเลือกจดโน๊ตในรูปแบบต่างๆ อย่างเช่นรูปแบบ Mind Mapping, Chart หรือ Drawing จะช่วยเสริมให้สมุดโน๊ตของคุณดูสวยงาม และมีความสร้างสรรค์ โดยเทคนิคการจดโน๊ตด้วยรูปแบบต่างๆ ดังกล่าว มีรายละเอียด ดังนี้
• จดโน๊ตแบบ Mind Mapping
Mind Mapping หรือแผนผังความคิด เป็นเทคนิคการจดโน๊ตที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมาก สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการตั้งหัวข้อไว้ตรงกลางแผ่นกระดาษ หลังจากนั้นวาดลูกศรแตกออกเป็นทีละประเด็น พร้อมคำอธิบายสั้นๆ แต่กระชับ และได้ใจความที่สมบูรณ์ ซึ่งการจดโน๊ตแบบ Mind Mapping นั้นเหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องระดมความคิด หรือใช้ความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังคงต้องการจำกัดข้อมูลให้มีแต่เนื้อหาสาระสำคัญ
• จดโน๊ตแบบ Chart
การจดโน๊ตแบบ Chart หรือตาราง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการจดโน๊ตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะสำหรับการบันทึกข้อมูลในรูปแบบตัวเลข หรือเชิงสถิติ นอกจากนั้นยังสามารถใช้กับการจัดข้อมูลต่างๆ เป็นหมวดหมู่เพื่อให้จดจำได้ง่าย และสามารถตรวจสอบ หรือเปรียบเทียบกับข้อมูลในส่วนต่างๆ ได้อย่างละเอียด เพื่อให้เห็นความแตกต่างของข้อมูลได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
• จดโน๊ตแบบ Drawing
การจดโน๊ตแบบ Drawing หรือการจดโน๊ตด้วยการวาดรูป ซึ่งเทคนิคการจดโน๊ตแบบ Drawing มักนิยมใช้การวาดรูปประกอบกับเนื้อหาต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านนั้นมีความเข้าใจกับเนื้อหาต่างๆ มากขึ้น เพราะว่าภาพวาดนั้นสามารถช่วยเสริมจินตนาการไปพร้อมๆ กับการอ่านเนื้อหา แถมยังสามารถส่งผลให้จดจำเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
5. อัดเสียงไว้ทุกครั้งเสมอ
การใช้เทคนิคการจดโน๊ตด้วยการอัดเสียง ถือว่าเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ทำให้จดสรุปโน๊ตได้ง่ายขึ้น เพราะว่าสามารถกลับมาฟังเนื้อหาเหล่านั้นได้หลายๆ รอบ แถมยังสามารถตรวจสอบความถูกต้องของประเด็นต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนั้นสามารถใช้โทรศัพท์มือถือ เครื่องบันทึกเสียง หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถบันทึกเสียงได้ และให้เสียงที่คมชัด ทำให้สามารถฟังได้ง่าย และช่วยให้การจดบันทึกง่ายขึ้นอีกด้วย
6. สีมีผลต่อการอ่าน และจดจำ
หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า “สีมีผลต่อการจดจำ” เพราะว่าสีถือว่าเป็นสิ่งเร้าที่ช่วยให้สมองเกิดการตอบสนอง และจดจำในสิ่งนั้นจากการมองผ่านด้วยสายตา ดังนั้น จึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมสีถึงมีผลต่อการอ่าน และจดจำ ถ้าหากใครที่กำลังมองหาเทคนิคการจดโน๊ตที่ช่วยให้จดจำเนื้อหาได้แม่นยำมากขึ้น การเลือกใช้สีโทนร้อนจะช่วยกระตุ้นสมองให้จดจำได้ดียิ่งขึ้น แต่ว่าจะต้องใช้สีในปริมาณที่เหมาะสม เพราะถ้าใช้เยอะจนเกินไป อาจทำให้การจดจำเนื้อหาต่างๆ นั้นสลับกัน หรือส่งผลเสียตาสายตาได้
• แนะนำสีที่นิยมสำหรับจดโน๊ต
สำหรับสียอดนิยมที่คนส่วนใหญ่มักใช้ในเทคนิคการจดโน๊ต ได้แก่ สีส้ม สีเหลือง สีเขียว และสีชมพู เพราะว่าสีเหล่านี้เป็นสีที่ช่วยกระตุ้นสมองให้จดจำได้ง่ายกว่าสีอื่น แถมยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำให้แม่นยำมากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะสีส้ม และสีเหลือง เหมาะสำหรับการเน้นคำ หรือข้อความที่สำคัญให้เด่นชัด เพื่อช่วยให้จดจำข้อความเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน
• สีที่ควรหลีกเลี่ยงในการจดโน๊ต
สีที่ควรหลีกเลี่ยงในการจดโน๊ตอย่างสีขาว ฟ้า และเทา เป็นสีที่ทำให้ผู้อ่านนั้นอาจรู้สึกตาลายได้ ด้วยลักษณะของโทนสีที่ดูเรียบ และกลมกลืนกับกระดาษ หรือสีปากกามากเกินไป อาจทำให้ไม่สามารถจดจำได้อย่างแม่นยำเท่าที่ควร จึงทำให้สีเหล่านี้ไม่เหมาะกับการใช้คู่กับเทคนิคการจดโน๊ต
7. สมาธิเป็นสิ่งสำคัญ
ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เทคนิคการจดโน๊ต หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการจดโน๊ต และจดจำมากแค่ไหน แต่ถ้าหากมีปัจจัยอื่นๆ หรือมีสิ่งรบกวน ก็อาจส่งผลกระทบต่อการจดโน๊ต หรืออ่านโน๊ตได้ อย่างเช่น การวางโทรศัพท์มือถืออยู่ใกล้ตัวที่อาจมีการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่างๆ ที่สามารถทำให้คุณไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ และสามารถส่งผลให้เสียสมาธิได้อีกด้วย ดังนั้น สมาธิจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด
เทคนิคการจดโน๊ต เป็นอีกหนึ่งวิธีการบันทึกเนื้อหาต่างๆ ที่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้อุปกรณ์สำหรับจดโน๊ต การเลือกใช้สีสัน ติดสติกเกอร์เพิ่มความน่ารัก การกำหนดรูปแบบเนื้อหา และจดเฉพาะเนื้อหาที่เป็นใจความสำคัญ ส่งผลให้สมุดโน๊ตของคุณนั้นดูสะอาดตา น่าอ่าน และเป็นระเบียบ แถมยังช่วยให้คุณสามารถจดจำเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และแม่นยำมากขึ้น รวมไปถึงช่วยให้คุณนำไปต่อยอดสื่อสารกับเพื่อร่วมที่ได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ยอดเยี่ยมมากๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีม