สารบัญ
วิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมีหลากหลายวิธีด้วยกัน เช่น การวางแผนการทำงาน การโฟกัสกับงาน การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน รวมถึงวิธีที่น่าสนใจ และสามารถทำได้ง่ายๆ อย่างการฟังเพลงสบายๆ เวลาทำงาน เพื่อช่วยผ่อนคลายหรือช่วยกระตุ้นให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ดังนั้น ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำ 7 แนวเพลงไว้เปิดฟังเวลาทำงาน โดยแต่ละแนวเพลงจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย!
การเปิดเพลงฟังเวลาทำงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างไร?
หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าการฟังเพลงจะมีส่วนช่วยให้การทำงานดีขึ้นได้อย่างไร? แต่รู้หรือไม่ว่าการฟังเพลงนั้นสามารถส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้ฟังได้ ดังนั้น การฟังเพลงจึงมีประโยชน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่วยผ่อนคลายความเครียด ช่วยเพิ่มสมาธิ หรือช่วยกระตุ้นให้สมองเกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เป็นต้น โดยการเปิดเพลงฟังเวลาทำงานนั้นสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ ดังนี้
กระตุ้นให้ทำงานได้ดีขึ้น
การฟังเพลงนั้นสามารถช่วยกระตุ้นให้การทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพราะว่าเพลง หรือเสียงต่างๆ นั้นเป็นคลื่นที่ถูกส่งไปยังสมอง จึงส่งผลให้ไปกระตุ้นการทำงานของสมอง โดยแนวเพลง และเสียงแต่ละประเภทนั้นจะมีส่วนช่วยกระตุ้นสมองในแต่ละด้านต่างกัน เช่น แนวเพลงบางเพลงกระตุ้นการทํางานในเรื่องของการเพิ่มความจำ มีการกระตุ้นให้มีพลังในการคิด หรือปลุกไฟในการทำงาน ทำให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น และจัดการงานได้รวดเร็วมากขึ้น
เพิ่มสมาธิในการทำงาน
การเปิดเพลงฟังเวลาทำงาน โดยเฉพาะเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง หรือเปิดเสียงบางอย่างนั้นสามารถช่วยให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น และสามารถโฟกัสกับงาน หรือสิ่งที่กำลังทำอยู่ตรงหน้าได้มากขึ้น เพราะว่าการเปิดเพลงฟังเวลาทํางานจะช่วยกลบเสียงรบกวนต่างๆ รอบตัว และทำให้สมองสามารถจดจ่อกับงานตรงหน้าได้ง่าย หรือช่วยเพิ่มสมาธิในการทำงานนั่นเอง
สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน
การเปิดเพลงฟังในเวลาทำงานนั้นนอกจากจะช่วยทำให้เกิดความสนุกสนาน และผ่อนคลายจิตใจของผู้ฟังแล้ว ยังสามารถทำให้บรรยากาศ หรือสภาพแวดล้อมในการทำงานดีขึ้นอีกด้วย เพราะว่าการฟังเพลงจะช่วยทำให้ผู้ฟังอารมณ์ดีขึ้น และมีความสุขมากขึ้น ดังนั้น การทำงานในสภาพแวดล้อมดีๆ ที่มีการเปิดเพลงฟังเวลาทำงาน ย่อมทำให้การทำงานนั้นสนุก และมีความสุขมากกว่าการต้องฟังเสียงรบกวนจากภายนอกไปด้วยในขณะที่ทำงานอย่างแน่นอน
ช่วยลดความเครียด
ในชีวิตการทำงานนั้นอาจจะมีความเครียดเรื่องงานเกิดขึ้นได้ โดยอาจเกิดจากการไม่มี Work-Life balance ความกดดัน ความวิตกกังวล หรือการพบเจออุปสรรค และปัญหาต่างๆ ในการทำงาน ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีหลายปัจจัยที่สามารถก่อให้เกิดความเครียดได้ และอาจจะทำให้งานที่ทำนั้นมีประสิทธิภาพลดลงตามไปด้วย ดังนั้น ถ้าหากอยากจะทำงานให้มีความสุข ก็สามารถเปิดเพลงฟังเวลาทำงานไปด้วยได้ เพราะเป็นวิธีที่สามารถช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และช่วยลดความเครียดลง
กระตุ้นให้มีความสร้างสรรค์
นอกจากการฟังเพลงจะช่วยให้สมองผ่อนคลาย ลดความเครียด และทำให้โฟกัสได้ดีขึ้นแล้ว ยังสามารถส่งผลให้สมองทำงานได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น โดยจะทำให้มีความคิดสร้างสรรค์ หรือคิดไอเดียใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น เพียงแค่เลือกฟังเพลง และเปิดเพลงฟังในระดับความดังของเสียงที่เหมาะสม ไม่เบาหรือ ดังจนเกินไป ก็จะทำให้เสียงเพลงสามารถช่วยกระตุ้นสมองให้มีการคิด และการสร้างสรรค์ที่ดี และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้
แนวเพลงหรือเสียงแบบใดบ้างที่ช่วยให้การทำงาน Work Work Work
หลังจากที่ทุกคนรู้แล้วว่าการฟังเพลงนั้นสามารถกระตุ้นการทำงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้ แต่ใช่ว่าเพลงทุกเพลงจะช่วยให้การทำงานดีขึ้นได้ โดยแนวเพลงที่แนะนำที่เหมาะสำหรับไว้เปิดเพลงฟังเวลาทำงาน และสามารถช่วยให้การทำงานดีขึ้นได้มีทั้งหมด 7 แนวเพลง ดังนี้
1. เพลงคลาสสิก (Classical Music)
เพลงคลาสสิก เป็นเพลงสากลรูปแบบหนึ่งที่บรรเลงจากเครื่องดนตรีตะวันตก ประกอบด้วยเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย เช่น ไวโอลิน เชลโล ประเภทเครื่องเป่าลมไม้ เช่น ฟลูต คลาริเน็ต ประเภทเครื่องเป่าทองเหลือง เช่น ทรัมเป็ต ทรอมโบน และประเภทเครื่องกระทบ เช่น กลองทิมปานี ไทรแองเกิล รวมถึงเปียโน ซึ่งเป็นเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง จึงเป็นเพลงที่เหมาะสมกับการเปิดฟังเวลาทำงาน เพราะช่วยทำให้สมองผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มสมาธิ และทำให้โฟกัสในการทำงานได้เป็นอย่างดี โดยที่ผู้ฟังจะไม่ถูกเนื้อร้องมาเบี่ยงเบนความสนใจ โดยเพลงคลาสสิกนั้นมีให้ทุกคนได้เลือกฟังอย่างมากมาย อย่างเช่นเพลง Pachelbel Canon in D Major หรือเพลง Beethoven For Alice เป็นต้น
2. เสียงเพลงจากธรรมชาติ (Nature Sounds)
เสียงเพลงจากธรรมชาติ เป็นเพลงที่ประกอบด้วยเสียงต่างๆ ที่มาจากธรรมชาติ เช่น เสียงของสายน้ำ เสียงฝนตก เสียงคลื่น เสียงลมพัดผ่านใบไม้ หรือเสียงนกร้อง ซึ่งเสียงเหล่านี้เป็นเสียงที่ทำให้รู้สึกถึงความสงบ สามารถช่วยเพิ่มสมาธิให้จดจ่อกับงานได้ดี และช่วยผ่อนคลายความรู้สึกตึงเครียดจากการทำงานได้
3. เพลงจากวิดีโอเกม (Video Game Music)
เพลงจากวิดีโอเกม เป็นเพลงที่ประกอบอยู่ในวิดีโอเกม ซึ่งจะเป็นดนตรี soundtrack ที่เป็นทำนองเพียงอย่างเดียว และไม่มีเนื้อร้อง โดยอาจเป็นได้ทั้งแนวเพลงแบบผ่อนคลายสไตล์เกมสร้างบ้าน ปลูกผัก หรืออาจเป็นเพลงแนวมีจังหวะ upbeat สไตล์เกมต่อสู้ ที่ช่วยกระตุ้นความตื่นตัว ทำให้สามารถจดจ่อกับงานได้ดี มีความคิกสร้างสรรค์ และมีแรงบันดาลใจในการทำงานได้มากขึ้น
4. เพลงแนวปลุกเร้า (Epic Fantasy Music)
เพลงแนวปลุกเร้า เป็นแนวเพลงที่หลายๆ คนอาจจะได้ยินบ่อยๆ ในหนังภาพยนตร์แนวแอคชั่น แนวแฟนตาซี หรือแนว Sci-fi ซึ่งเพลงแนวนี้ถือว่าเป็นเพลงที่สามารถกระตุ้นการทํางานได้อย่างดีเยี่ยม เพราะว่ามีจังหวะที่สามารถช่วยสร้างความตื่นเต้นเร้าใจ ปลุกไฟในการทำงาน และช่วยเพิ่มพลังในการทำงานได้อย่างเต็มที่
5. เสียงจากบรรยากาศ สถานที่ต่างๆ (Ambient Noise)
เสียงจากบรรยากาศ หรือเสียงจากสถานที่ต่างๆ เป็นเสียงที่หลายๆ คนอาจจะได้ยินอยู่บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น เสียงพูดคุยของผู้คน เสียงเดิน หรือเสียงบรรยากาศในร้านกาแฟ โดยการเปิดเสียงเหล่านี้คลอเบาๆ ในขณะทำงานนั้นจะช่วยให้ทุกคนรู้สึกเพลิดเพลินในระหว่างการทำงานได้ แถมยังช่วยให้รู้สึกสบาย สมองปลอดโปร่ง และช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการทำงานได้เหมือนกับการฟังเพลงสบายๆ เวลาทํางานเลยทีเดียว
6. ดนตรีโลไฟ (Lo-fi Beats)
ดนตรีโลไฟ หรือ Lo-fi ย่อมาจากคำว่า Low Fidelity หมายถึงแนวดนตรีที่ทำให้มีลักษณะของคุณภาพเสียงที่ไม่ดี มักจะมีเสียง Noise หรือเสียงรบกวนแทรกอยู่ และมีเสียงไม่ชัด และติดๆ ขัดๆ ของดนตรี คล้ายกับเพลงจากวิทยุ หรือจากแผ่นเสียงสมัยก่อน ซึ่งมีหลายแนวเพลงด้วยกัน โดยลักษณะเฉพาะที่สำคัญของดนตรีโลไฟ มีดังนี้
- เกิดจากการผสมผสานของดนตรี และทำนองที่เรียบง่าย
- มีจังหวะที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ
- มี Bass line ที่ค่อนข้างสูง แต่ยังมีความคงที่และสมูธ
- มีการ Mix ขึ้นมาใหม่โดยไม่ได้ใช้ Sound pattern เดิมๆ
- มีการเพิ่มเสียง Noise ต่างๆ ลงไปเป็นเสียง Background
7. เสียงที่ช่วงความถี่คงที่ (White Noise)
เสียง White Noise คือ เสียงที่มีช่วงความถี่ที่คงที่ และสม่ำเสมอ เช่น เสียงรถไฟ เสียงพัดลม หรือเสียงเครื่องปรับอากาศ มักใช้เปิดเพื่อช่วยในการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้ไม่ถูกรบกวนสมาธิในขณะทำงาน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีมากยิ่งขึ้น
เปิดข้อดีของเสียงเพลงอื่นๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้
หลายๆ คนอาจจะรู้ถึงประโยชน์ของเสียงเพลงกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน หรือการช่วยเพิ่มสมาธิให้จดจ่อกับงานมากยิ่งขึ้น แต่ว่าการเปิดเพลงฟังเวลาทำงานนั้นยังมีข้อดีอีกหลายอย่าง โดยข้อดีของการฟังเพลงที่ทุกคนอาจจะยังไม่รู้ มีดังนี้
ช่วยลดความเครียด
การเปิดเพลงฟังเวลาทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงที่เบาๆ สบายๆ หรือฟังเพลงที่สนุกสนาน สามารถส่งผลให้สมองของทุกคนนั้นได้พักผ่อน และรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดความตึงเครียดในขณะทำงานได้
เพิ่มความจำ
การเปิดเพลงฟังเวลาทำงานนั้นสามารถช่วยเพิ่มความจำได้ โดยเฉพาะเพลงแนวคลาสสิกที่ถือว่าเป็นเพลงที่สามารถช่วยกระตุ้นพัฒนาการของสมองได้เป็นอย่างดี และสามารถช่วยให้ความจำดีขึ้น จึงเป็นแนวเพลงที่นิยมเปิดฟังในขณะทำงาน หรืออ่านหนังสือเป็นอย่างมาก
ทำให้อารมณ์ดี
การฟังเพลงนั้นมีสามารถส่งผลต่ออารมณ์ และความรู้สึกของมนุษย์ได้ โดยสามารถกระตุ้นได้ทั้งความรู้สึก และความคิด โดยการฟังเพลงที่สนุกสนาน หรือได้ฟังเพลงที่ชอบก็จะช่วยให้อารมณ์ดี และมีความสุขมากยิ่งขึ้น ทำให้สภาพจิตใจดีขึ้น และมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
ดีต่อสุขภาพหัวใจ
นอกจากนั้นการฟังเพลงยังสามารถส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจได้ ถ้าหากฟังเพลงที่มีจังหวะเร็ว หรือเพลงที่มีความสนุกสนานจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว และเลือดสูบฉีดได้ดีขึ้น แต่ถ้าฟังเพลงที่ผ่อนคลายก็จะช่วยลดความดันเลือดได้ ดังนั้น การเลือกฟังเพลงให้เหมาะสมก็จะสามารถส่งผลดีต่อการปรับระดับความดันเลือด และสุขภาพหัวใจนั่นเอง
การเปิดเพลงฟังเวลาทํางานนั้นมีข้อดีมากมายหลายข้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงกระตุ้นการทํางานให้มีความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มพลัง และปลุกใจในการทำงาน หรือจะเป็นการฟังเพลงสบายๆ เวลาทํางานเพื่อช่วยผ่อนคลาย และลดความเครียดที่สะสมอยู่ รวมถึงช่วยเพิ่มสมาธิ ให้ทุกคนจดจ่อกับงานต่างๆ ที่ทำได้ดียิ่งขึ้น สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสุขในการทำงาน เพียงแค่เลือกแนวเพลงที่ตัวเองชอบ หรือแนวเพลงที่เหมาะกับการเปิดฟังในเวลาทำงาน ก็จะช่วยให้ทุกคนสนุกกับการทำงานมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน